สร้างเว็บไซต์ฟรี
อาการตัวบวมหรือบวมน้ำเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะเป็นสภาวะที่ร่างกายเกิดความผิดปกติจนทำให้น้ำและน้ำเหลืองไหลเข้าไปสะสมภายในเนื้อเยื่อต่างๆ มากเกินความจำเป็น แล้วไม่สามารถที่จะระบายออกได้ตามปกติ ในความเป็นจริงแล้วของเหลวต่างๆ ควรจะไหลเข้าสู่หลอดเลือดโดยตรง แต่กลับไหลย้อนเข้าไปตามเนื้อเยื่อแทน แม้แต่จุดที่เป็นช่องว่างก็ไหลเข้าไปรวมกันเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดผลเสียแก่ร่างกาย ถ้าเป็นตรงจุดที่ไม่สำคัญอาการตัวบวมก็จะไม่อันตรายเท่าที่ควร แต่ถ้าไปเกิดตรงจุดสำคัญและมีของเหลวเป็นจำนวนมากก็จะก่อให้เกิดผลเสียกับสุขภาพขึ้นมาทันที
ตัวบวมเกิดได้จากหลายสาเหตุตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวันที่ผิดปกติ, มีการยืนหรือนั่งติดต่อกันเป็นเวลานาน, รับประทานอาหารโซเดียมสูง, การมีประจำเดือนของผู้หญิง ไปจนถึงระดับฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป นอกจากนี้อาการตัวบวมก็ยังเกิดจากโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบน้ำเหลืองและการใช้ยาบางชนิดได้อีกด้วย ซึ่งโรคที่อาจทำให้เกิดตัวบวมได้ คือ โรคไต, โรคตับแข็ง, โรคหัวใจ และโรคขาดสารอาหาร เป็นต้น
ส่วนตัวบวมที่เกิดจากน้ำเหลืองค้างในร่างกายมากเกินไปจะไม่พบบ่อยครั้ง แต่ที่เป็นกันมากจะมาจากของเหลวอย่างน้ำที่เป็นตัวการสำคัญ เมื่อเกิดอาการจะสังเกตได้ง่ายๆ ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายบวมขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ มักจะเกิดขึ้นที่ใบหน้า, รอบดวงตา, ช่องท้อง, ปอด และช่วงขาทั้งหมด เป็นต้น รวมไปถึงคนที่ต้องการลดความอ้วน ทั้งที่น้ำหนักก็ลงดีแต่รูปร่างกลับไม่ลดลงไปตามน้ำหนัก ต่อให้พยายามบริหารร่างกายเพื่อลดหน้าท้องมากขนาดไหน ก็ไม่ช่วยให้หน้าท้องยุบตามที่ต้องการ ทำให้บางคนรู้สึกท้อแท้จนไม่ต้องการจะลดน้ำหนักอีก ด้วยความเข้าใจผิดว่าลดหน้าท้องไม่ได้เพราะไขมันพอกหนาเกินไป ซึ่งความจริงแล้วเกิดจากอาการบวมน้ำทั้งหมด
วิธีแก้ไขปัญหาตัวบวมที่ดีที่สุด
คือการหันกลับมาดูแลตัวเองด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและรสเค็มลง, พักผ่อนให้เพียงพอ, ว่ายน้ำบ่อยครั้งเพื่อให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นและผลักเอาของเหลวออกไปได้เร็วขึ้น, จิบน้ำสะอาดไปเรื่อยๆ ทั้งวัน เพื่อขับน้ำที่ค้างอยู่ทางระบบขับถ่ายและลดอาการตัวบวมลงได้ดี นอกจากนี้ถ้าตัวบวมจากอาการของโรคหรือการใช้ยาก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด
บางครั้งอาการตัวบวมที่ไม่รุนแรงอาจจะทำให้รำคาญและเป็นกังวล เพราะจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว อึดอัดจากรูปร่างที่บวมขึ้น ส่วนต่างๆ ของร่างกายบวมออกมาอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายทำงานช้าลง ปวดหัวบ่อยครั้ง และอาจทำให้นอนไม่หลับ แต่ถ้าอาการตัวบวมเพิ่มระดับที่รุนแรงก็อาจจะทำเกิดภาวะความดันโลหิตสูง เซื่องซึมลงจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า และทำให้เกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าจับสัญญาณร่างกายได้และรู้ทันว่ากำลังเผชิญปัญหาตัวบวมอย่านิ่งนอนใจ รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอาหารการกินทันที เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และไม่ก่อให้เกิดปัญหาตัวบวมเรื้อรังที่อาจส่งผลเสียร้ายแรงในอนาคต
